การจะหา ไอเดียตั้งชื่อร้าน ที่ใช้ได้ทั้งออฟไลน์กับร้านบนโลกออนไลน์อย่างเช่น ร้านบนไอจี ร้านบนเฟสบุ๊ค หรือชื่อเว็บไซต์ที่มีความสามารถเป็นร้านออนไลน์ได้มีวิธีที่แตกต่าง และเงื่อนไขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทางเราเลยเสนอทางเลือกด้วย ไอเดียตั้งชื่อร้าน ออนไลน์ (ออฟไลน์ก็ใช้ได้นะ) 10 วิธีด้วยกันครับ
1. ตั้งชื่อร้านต้องใช้ได้ทั้งไทยและอังกฤษ
คุณ TG_Min แห่งบอร์ดไทยเสียว (thaiseoboard.com) ได้ให้คำแนะนำในการเลือกชื่อโดเมนเนมเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ‘ถ้าจะสร้างอะไรซักอย่างให้คนจดจำ อย่าใช้ภาษาท้องถิ่นเพราะเป็นการปิดโอกาสในการออกสู่โลกกว้าง เว้นแต่คุณจะมีจุดประสงค์เพื่อขายตัวตนอันนั้นทำได้
แต่เผื่อทางเลือกให้คนที่ไม่รู้ด้วย เช่น จดมันทั้งอังกฤษทั้งไทย ทับศัพท์เลยก็ดี’ เพราะฉะนั้นแล้วชื่อเว็บไซต์กับชื่อร้านในสมัยนี้มันคือชื่อเดียวกันแล้ว โดยเฉพาะการตั้งชื่อร้านออนไลน์ตั้งชื่อให้ใช้ได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษดีกว่าครับ
2. ตั้งชื่อร้านแบบมีคำนำหน้า
เคยไหมว่าชื่อร้านหรือชื่อเว็บไซต์เราเลือกนั้นมันอาจจะไปซ้ำกับคนอื่น วิธีการอย่างง่ายเลยใส่คำนำหน้าลงไปเช่น คำว่า Cloud มันซ้ำก็ใช้คำว่า thecloud ครับ ผู้อ่านลองไปหาคำนำหน้ามาเพิ่มลงในคำที่ท่านอยากได้มันจะเป็นร้านถัดไปก็ได้ครับ
3. ตั้งชื่อร้านแบบมีคำลงท้าย
ผู้อ่านรู้เว็บไซต์ spotify รึป่าวครับ รู้ไหมว่าคำลงท้ายที่ว่า -tify แปลว่าอะไร ผมก็ไม่รู้อาจจะมีความหมายในภาษาหนึ่งก็ได้ครับ หลักการง่ายๆ คือการเอาคำแรกที่ชอบหรือเป็นคำแรกที่ตรงกับธุรกิจของเรามาใส่กับคำที่เราอยากต่อท้ายเช่น spotify หรือ shopify เรานี้เราก็ได้คำที่ไม่ซ้ำกับใครแล้วครับ
4. ตั้งชื่อร้านต้องไม่มีคำหยาบ
ผมเห็นยูทูปเบอร์ท่านหนึ่งใช้ชื่อช่องว่า ช่องคลอด ท่านคงรู้ว่ามันแปลว่าอะไร แม้ว่าคำนั้นจะเป็นคำผวนหรือเป็นคำศัพท์เฉพาะกลุ่ม แต่ถ้ามีความหมายไปในทางลบมันก็ไม่ดีทั้งนั้นครับ แนะนำว่าเลี่ยงๆ ไว้ดีกว่าครับ อนาคตถ้าได้ collab หรือร่วมงานกับแบรนด์ดังแล้ว เรื่องถาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญมากครับบอกเลย
5. ไอเดียตั้งชื่อร้าน ไม่จำเป็นต้องมีความหมาย
คนมักนิยามความหมายของคำว่า Google ว่าเครื่องมือค้นหา หรือเว็บไซต์สำหรับค้นหา แต่แท้จริงแล้วมันไม่มีความหมายครับ แต่มันอาจเป็นคำที่โดนใจ ออกเสียงง่าย เขียนง่าย หรือแม้กระทั่งจำง่าย ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการตั้งชื่อร้านครับผม
6. ตั้งชื่อร้านอย่ายึดโยงกับสถานที่
ร้านข้าวมันไก่เจ้แดงประตูน้ำ ผู้อ่านคงเคยได้ยินการตั้งชื่อร้านในลักษณะมากันบ้าง ลองคิดดูสิว่าถ้าย้ายสถานที่แต่ชื่อร้านเดิมจะทำอย่างๆร แล้วถ้าเปลี่ยนคนขายด้วยเหตุผลใดๆ คนจะจำชื่อแบรนด์เราได้ไหม ไหนๆ ตั้งชื่อร้านทั้งทีอย่าโยงกับสถานที่หรือตัวบุคคลครับมันแก้ยาก
7. ไอเดียตั้งชื่อร้าน แบบเอาคำมารวมกัน
รู้ไหมว่าว่าคำว่า voom แปลว่าอะไรครับ มันมาจากคำว่า ‘Video Room’ ‘Visual Room’ และคำว่า ‘Boom’ เอามาผสมกันจนกลายเป็นคำว่า VOOM ไหนๆ ก็หาคำลงไม่ได้ก็เอารวมกันซะเลยจนออกเป็นคำใหม่ แถมยังไม่ซ้ำใครอีกต่างหาก
8. ชื่อร้านต้องจำง่าย
คนเราชอบจำอะไรง่ายๆ เพราะฉะนั้นชื่อร้านของเราต้องจำง่าย เมื่อจำง่ายก็บอกต่อคนอื่นๆ ได้ครับ ดังนั้นชื่อร้านต้องมีสองถึงสามพยางค์ เช่น กูเกิ้ล (Google) เฟสบุ้ค (Facebook) หรือแม้กระทั่งไมโครซอฟต์ (Microsoft) ครับ
9. ตั้งชื่อร้านโดยใช้คำจากภาษาต่างประเทศ
ไอเดียตั้งชื่อร้านออนไลน์แบบนี้เป็นที่นิยมมากครับ เช่น เราตองการตั้งชื่อร้านว่า run (ที่แปลว่าวิ่ง) แต่มีคนจดโดเมนเนมไปแล้วแถมชื่อร้านยังไปซ้ำกับคนอื่นอีก ลองเอาคำว่าวิ่งไปหาในภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาสเปน หรือภาษาอินโด เราอาจได้ชื่อเท่ๆ จำง่าย และเขียนง่ายก็เป็นได้ครับ
10. ใช้เว็บตั้งชื่อร้านช่วย
ใครที่ทำตามคำแนะนำแล้วยังไม่ถูกใจหรือยังหาชื่อร้านเก๋ๆ ไม่ได้อีก ผมขอแนะนำเว็บไซต์สำหรับการหาชื่อร้านออนไลน์อย่างเว็บไซต์ namelix.com เพียงท่านใส่คำที่ต้องการสั้นๆ (Keyword) ตัวระบบเว็บไซต์ก็จะทำการสร้างชื่ออกมาให้เสร็จสรรพ พร้อมยังตรวจสอบได้อีกว่าชื่อซ้ำกับคนอื่นหรือไม่ครับ สะดวกดีจริงๆ