เคยไหมครับ? ที่บางครั้งเราใช้สื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียแล้วต้องใส่ลิงก์ลงไปในส่วนข้อมูลทั่วไป (Bio) เพื่อแสดงเว็บไซต์หรือระบบในเครือที่เราดูแลอยู่ เช่น เราต้องการใส่ลิงก์เว็บไซต์ ลิงก์ทวิตเตอร์ แต่แพลตฟอร์มเจ้ากรรมที่เราใช้นั้นไม่สนับสนุนให้ใส่ลิงก์มากกว่าหนึ่งลิงก์ (ฮา) นี้แหละครับต้นเหตุที่เราต้องใช้ Linktree มารู้จักกันครับว่า Linktree คืออะไร
Linktree คืออะไร
สื่อบางสื่อให้ใส่ลิงก์ได้เพียงหนึ่งลิงก์ เลยเกิดบริการออนไลน์ที่เราเรียกว่า ‘การรวมลิงก์’ คือการเอาลิงก์ที่เราต้องการไม่ว่าจะเป็นยูทูป ทวิตเตอร์ เว็บไซต์ มารวมไว้ในลิงก์เดียว เช่น Linktree ของคุณ Stefanie M. Marrone ถือเป็นวิธีที่สะดวกในหลายๆ แง่มุมไม่ว่าจะเอาไปโปรโมทบนสื่อต่างๆ ทั้งลายเซนต์อีเมล ป้ายโฆษณา QR Code หรือแปะลิงก์ในโซเชียลมีเดีย เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า Linktree คือบริการรวมลิงก์ให้อยู่ที่เดียวเป็นหนึ่งลิงก์
Linktree มีดีอย่างไร ทำไมต้องใช้
บริการรวมลิงก์ของ Linktree นั้น ช่วยอำนวยความสะดวกหลายคือ รวมลิงก์ต่างๆ เอาไว้เพียงหนึ่งลิงก์แค่ความสามารถนี้เพียงความสามารถเดียวก็ถือว่ากินขาดแล้วเนื่องจากแพลตฟอร์มหลายๆ แพลตฟอร์มอนุญาตให้ใส่ลิงก์เพียงหนึ่งลิงก์มันจึงตอบโจทย์คนทำงานออนไลน์อย่างมาก ที่กล่าวมาทั้งหมดคือเวอร์ชั่นฟรี
หากท่านใดต้องการใช้งาน Linktree แบบมีค่าใช้จ่ายทาง Linktree มีแพกเกจหลายระดับคือ Starter ($5USD/month) Pro ($9USD/month) และ Premium ($24USD/month) โดยจะมีความสามารถดังนี้ครับ สำหรับใครที่ต้องเปรียบเทียบความสามารถในแต่ละแพกเกจให้ไปที่ลิงก์นี้ได้เลยครับ Pick the perfect plan ส่วนด้านล่างเป็นความสามารถอย่างย่อครับ
1. ดูสถิติผู้ใช้งานเชิงลึก
สถิติในที่นี้คือ ยอดคนดูลิงก์ (lifetime views) ยอดคลิกลิงก์ (lifetime clicks) และค่า CTR (click-through rate) โดยแต่ละแพกเกจจะดูสถิติได้ตามช่วงเวลาที่ต่างกันดังนี้คือ Starter 90 วันล่าสุด Pro 365 วันล่าสุด และ Premium ตลอดอายุการใช้งาน
2. Redirect Link
Redirect Link คือความสามารถในการพาผู้ใช้งานไปยังลิงก์ที่เราต้องการในทันทีโดยไม่ผ่านลิงก์ของ Linktree ถือเป็นความสามารถสุดเจ๋งเพราะไปจำเป็นต้องเข้าไปหน้าโปรไฟล์ของ Linktree ก่อน (แต่ตัวระบบยังนับสถิติให้อยู่นะครับ) นอกจากนี้แล้วยังสามารถกำหนดวันและเวลาในหมดอายุได้อีกด้วย
3. Mailing List Integration
ตั้งแต่แพกเกจ Pro ขึ้นผู้ใช้งานสามารถใส่ลิงก์เพื่อเก็บอีเมลและ SMS โดยจะใช้บริการของ Mailchimp หรือ Google Sheets ทาง Linktree เคลมว่าแค่ 2 คลิกก็ทำงานได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีความสามารถอื่นๆ อีกมากไปอ่านที่ลิงก์นี้เลยครับ An overview of paid features available on Linktree
Linktree ทําอย่างไร และสมัคร Linktree แบบฟรี
1. เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ https://linktr.ee แล้วใส่ชื่อผู้ใช้งาน (Username) ที่ต้องการแล้วคลิก Claim your Linktree ระบบจะพาไปตรวจสอบชื่อใช้งานว่าซ้ำกับท่านอื่นไหม
2. ใส่ชื่อผู้ใช้งานและอีเมลระบบจะตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ครับ ถ้าใช้ไม่ได้จะขึ้นกรอบสีแดงแต่ถ้าใช้ได้จะขึ้นกรอบสีเขียวพร้อมเครื่องหมายถูกครับ
3. ใส่รหัสผ่านให้มีขักระพิเศษสัก 1 ตัว มีความยาวที่ 8 ตัว กำลังดีครับ
4. ใส่ชื่อที่ใช้แสดงบนเว็บครับ หลังจากนี้ Linktree จะพาท่านเลือกประเภทธุรกิจ และจะส่งอีเมลไปให้ท่านยืนยันตัวตน เพียงแค่นี้ท่านก็ใช้งาน Linktree ได้แล้วครับ (เย้) หากใครยังงงๆ ผมแปะลิงก์ยูทูปจาก Linktree ให้ดูครับตามลิงก์นี้เลย How To Get Linktree: Sign Up Instructions For Free Account