มะเดื่อฝรั่ง หรือลูกฟิก (Figs) มี 2 สายพันธุ์หลัก คือ BTM5 และ Black Jack เป็นต้นไม้ที่สูงได้ถึง 6 เมตร มีใบเดี่ยวเรียงเป็นเกลียว ขอบหยัก ดอกบานเป็นกลุ่มหนาแน่น มีลักษณะผลคล้ายลูกแพร์ เมื่อสุก มะเดื่อฝรั่งจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงสดใส เนื้อมีสีชมพูอมแดงหวาน และมีเมล็ดเล็ก ๆ จำนวนมากฝังอยู่ด้านในของผล มะกอกฝรั่งมักนำมารับประทานสด ซึ่งมีรสชาติหวาน ออกกลิ่นหอมอ่อน ๆ และเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย ทั้งอาหารคาวและหวาน นอกจากนี้ การปลูกมะกอกฝรั่งยังเป็นแหล่งรายได้ที่ยั่งยืน สำหรับชุมชนบนภูเขาของไทย ซึ่งเป็นทางเลือกการปลูกเพื่อทดแทนพืชผลดั้งเดิมในภาคเหนือ
13 สรรพคุณมะเดื่อฝรั่งหรือลูกฟิก (Figs) ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
มะเดื่อฝรั่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ficus carica เป็นไม้ดอกชนิดหนึ่งในวงศ์หม่อน มีความใกล้ชิดกับหม่อนและต้นไมร์เทิล มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งได้มีการนำมะเดื่อฝรั่งมาใช้เป็นพืชทางเลือก เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนชาวเขา เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น จึงมีประโยชน์มากมาย เหมาะที่จะนำไปเป็นส่วนประกอบในอาหารทุกชนิด โดย 13 สรรพคุณของมะกอกฝรั่ง มีดังนี้
1. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
มะเดื่อฝรั่ง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสารฟลาโวนอยด์และแอนโธไซยานิน ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย และลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ โดยสารต้านอนุมูลอิสระในมะเดื่อฝรั่ง สามารถช่วยทำลายเซลล์มะเร็งและยับยั้งการพัฒนาของมะเร็งได้ การนำมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหาร จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงสุขภาพให้แข็งแรงขึ้น
2. ลดโรคผิวหนัง
มะเดื่อฝรั่ง ช่วยในการรักษาโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคด่างขาว โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังอักเสบ แสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ มีการวิจัยบางส่วนได้ระบุว่าครีมที่มีสารสกัดจากมะกอกฝรั่ง สามารถช่วยลดรอยแดง เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และลดเลือนจุดด่างดำได้ ผลการวิจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าอาจมีประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอย สิว และรอยดำ แต่ก็จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
3. ช่วยให้ขับถ่ายคล่อง
มะเดื่อฝรั่ง มีกากใยสูง สามารถช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารได้ จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานเป็นประจำ ประมาณ 8 สัปดาห์ พบว่าการขับถ่ายง่ายขึ้นและอุจจาระนิ่มลง จึงช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำมะเดื่อฝรั่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารอาจเป็นวิธีง่าย ๆ และมีประสิทธิภาพ ในการปรับปรุงระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้น
4. คุมระดับน้ำตาลในเลือด
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ถือเป็นวิธีสำคัญในการจัดการโรคเบาหวาน ผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้ฮอร์โมนอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมะเดื่อฝรั่งมีสารที่อาจช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานประเภท 1 สามารถใช้ฮอร์โมนอินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการดื่มชามะเดื่อฝรั่ง อาจช่วยลดปริมาณอินซูลินและลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานประเภท 1 ได้ดี
5. บำรุงกระดูกและกล้ามเนื้อ
มะเดื่อฝรั่ง อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความแข็งแรง การรับประทานเป็นประจำสามารถช่วยป้องกันภาวะต่าง ๆ เช่น โรคกระดูกพรุนและกระดูกเปราะบางในวัยชราได้ นอกจากนี้ ยังมีสารอาหารต่าง ๆ เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นและช่วยให้กล้ามเนื้อเติบโตได้เร็วขึ้น
6. ลดความดันโลหิตสูง
การรับประทานมะเดื่อฝรั่ง สามารถช่วยป้องกันความดันโลหิตสูงได้ เนื่องจากมีสรรพคุณในการช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ สำหรับผู้ที่มีอาการความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว สามารถช่วยลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้ โดยเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งสามารถนำไปเสริมในอาหาร เพื่อรักษาสุขภาพและความสมบูรณ์ของร่างกาย
7. โภชนาการสูง
มะเดื่อฝรั่ง เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก แคลเซียม โพแทสเซียม โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญ ผลของมะเดื่อฝรั่งยังไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอลอีกด้วย จึงถือเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด 10 อันดับแรกของโลกเลยทีเดียว พร้อมการมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
8. ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาด้านสมรรถภาพทางเพศ หรือมีความต้องการทางเพศต่ำ การรับประทานมะเดื่อฝรั่งอาจช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศอย่างได้ผลดี นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยรักษาอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว หรือการตอบสนองทางเพศต่ำ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถดูแลสุขภาพทางเพศได้ดีเลยทีเดียว
9. ลดปัญหาช่องปากและบำรุงสายตา
การรับประทานมะเดื่อฝรั่ง สามารถช่วยรักษาอาการแผลในปากได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม สามารถช่วยเร่งกระบวนการรักษา การป้องกันการอักเสบ และการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ สำหรับผู้ที่ต้องเพ่งสายตาเป็นเวลานาน ใช้สายตาในการทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ การรับประทานมะเดื่อฝรั่ง สามารถช่วยให้สุขภาพดวงตาดีขึ้นและบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น ปวดตาและมองเห็นพร่ามัว จากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
10. ป้องกันการเกิดนิ่ว
มะเดื่อฝรั่ง มีคุณสมบัติในการป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ดังนั้น การรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ได้ ทำให้ลดโอกาสการเกิดนิ่วได้ดี นอกจากนี้ ยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของปัสสาวะ และช่วยลดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ การรับประทานผลไม้ชนิดนี้ สามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย นอกเหนือจากการป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอีกด้วย
11. ทำให้การลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ
มะเดื่อฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำและไม่มีไขมัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือเปลี่ยนจากของขบเคี้ยวที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะมะเดื่อฝรั่งแห้งถือเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมีไฟเบอร์ 9.8 กรัม ต่อ 100 กรัม ไฟเบอร์นี้ช่วยให้รู้สึกอิ่ม ช่วยในการย่อยอาหาร ลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ ฝรั่งยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี วิตามินเค โพแทสเซียม แมกนีเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก
12. ชะลอริ้วรอยก่อนวัย
ผลมะเดื่อฝรั่ง อุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ฟลาโวนอยด์ และแอนโธไซยานิน ซึ่งล้วนแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ สารเหล่านี้ทำหน้าที่ทำลายโมเลกุลหรือเซลล์ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย ช่วยรักษาความอ่อนเยาว์และชะลอการเกิดริ้วรอยที่เกิดจากวัย นอกจากนี้ ยังช่วยลดจุดด่างดำและรอยแดงที่เกิดจากสิว รวมถึงปรับปรุงความกระจ่างใสของผิว พร้อมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่นมากขึ้นและรักษาความชุ่มชื้นใต้ผิวหนังให้เพียงพอ เพื่อป้องกันความแห้งกร้านและปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
13. ให้พลังงานสูงแต่ไม่ทำให้อ้วน
มะเดื่อฝรั่ง ให้พลังงานสูงจากคาร์โบไฮเดรต โดยปราศจากไขมัน คอเลสเตอรอล หรือโซเดียม ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง หรือโรคตับ สามารถได้รับประโยชน์จากมะเดื่อฝรั่งได้ ประกอบด้วยโพแทสเซียม ซึ่งเป็นกรดอินทรีย์ที่พบในมะเดื่อฝรั่ง ช่วยรักษาสมดุลกรด-ด่างของร่างกาย ป้องกันไม่ให้มีกรดมากเกินไป
มะเดื่อฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีใยอาหารสูง ช่วยในการย่อยอาหารและส่งเสริมการขับถ่ายเป็นประจำ นอกจากนี้ ยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกายและป้องกันอาการท้องผูกได้ดี นอกจากจะรับประทานสดแล้ว มะเดื่อฝรั่งยังใช้ทำของหวานต่าง ๆ เช่น พาย แยม มะกอกแห้ง และแม้แต่บดเป็นผงแทนกาแฟได้ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรรู้เมื่อรับประทานมะเดื่อฝรั่ง คือ น้ำยางในผลอาจทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคน โดยเฉพาะผู้ที่แพ้น้ำยางของผลไม้ชนิดอื่น ส่วนการรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรือปัญหาระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ ดังนั้น จึงแนะนำให้รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ โดยไม่ควรรับประทานเกิน 2-3 ผลต่อวัน นอกจากนี้ มะเดื่อฝรั่งยังมีปริมาณน้ำตาลพอควร สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตรจึงควรรับประทานในปริมาณจำกัด