ทุกวันนี้มีหลายสิ่งที่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ โดยแต่ละคนก็จะต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง และเป็นวิธีที่จะช่วยให้พัฒนาตัวเองไปสู่ควมสำเร็จได้อย่างมั่นคง แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนจำเป็นต้องมีเพื่อที่จะทำให้สิ่งที่หวังต่าง ๆ เป็นไปได้จริงก็คือต้องมีแนวคิดที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยแนวคิดที่มีประโยชน์ที่เราจะพามทำความรู้จักกับทุกคนในวันนี้ก็คือ แนวคิด Growth Mindset นั่นเอง ซึ่งแนวคิดนี้จะมีประโยชน์และสามารถเป็นกุญแจไปสู่ความสำเร็จได้จริงหรือไม่ ต้องไปดูกันเลย
Growth Mindset คืออะไร
Growth Mindset คือ แนวคิดที่ว่าด้วยความเชื่อว่าคนเรานั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยผ่านการเรียนรู้ ความพยายาม ความไม่ยอมแพ้ต่าง ๆ ผ่านช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนและยากลำบาก ถือว่าเป็นแนวคิดที่ช่วยเสริมสร้างกำลังใจได้เป็นอย่างดี เพราะหลายคนต้องเคยประสบกับความรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่เก่ง ทำอะไรก็ไม่ดี ทำให้รู้สึกแย่กับตัวเอง และไม่มีกำลังใจที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป แต่กับแนวคิด Growth Mindset นี้ ที่เชื่อว่าทุกคนจะเก่งและเติบโตขึ้นได้อีก ทำให้เราสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ แม้ว่าวันนี้เราจะยังทำสิ่งที่ตั้งใจได้ไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยเราก็ได้ลองทำ และเห็นว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหน สามารถนำมาปรับปรุงและพัฒนาได้ แม้วันนี้จะยังไม่ดี แต่วันข้างหน้าก็ไม่แน่ ถ้าเรายังมีแนวคิดที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เรียนรู้ตลอดเวลาทั้งจากข้อผิดพลาดต่าง ๆ และหาความรู้เพิ่มเติม ในอนาคตจะต้องได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
สิ่งสำคัญของ Growth Mindset ก็คือคุณจะต้องก้าวข้ามความกลัวของตัวเองให้ได้ ทุกคนล้วนมีความรู้สึกกลัวการผิดพลาดอยู่แล้ว โดยเฉพาะการที่จะเริ่มลงมือทำอะไรใหม่ ๆ นั้น สิ่งที่กลัวที่สุดก็คือความผิดพลาดหรือความล้มเหลวนั่นเอง แต่ถ้าเราปรับความคิดได้ว่า แม้จะเจอความผิดพลาดก็ถือว่าเป็นบทเรียน ช่วยให้เราได้โตขึ้น และได้รู้จักแก้ปัญหามากขึ้น การเริ่มต้นใหม่ก็จะไม่ยากอีกต่อไป และความกลัวที่คิดว่าผ่านไปได้ยากก็จะเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
10 วิธีคิดอย่าง Growth Mindset มีอะไรบ้าง
- ต้องยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบทั้งของตัวเองและของผู้อื่นให้ได้ เพราะทุกคนล้วนมีความบกพร่องและข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ข้อเสียเหล่านั้นเมื่อได้รับการแก้ไขก็สามารถพัฒนาได้
- เมื่อเจอเรื่องยาก ๆ ให้มองว่าเป็นความท้าทายหรือเป็นโอกาสดี ๆ ให้ตัวเองได้ทดลองทำอะไรใหม่ ๆ และช่วยให้มีความกล้าที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น
- เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ให้มองสิ่งเหล่านั้นเป็นบทเรียน คนเรามักจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ จากความล้มเหลวอยู่เสมอ เมื่อพลาดไปแล้วก็แค่หาข้อผิดพลาดและลงมือทำใหม่อีกครั้ง
- พัฒนาและค้นหาทักษะใหม่ ๆ ของตัวเองอยู่เสมอ ในเรื่องเดียวกันก็ทดลงใช้วิธีแก้ปัญหาที่แตกต่าง ๆ กัน อาจจะทำให้เห็นมุมมองการแก้ปัญหาใหม่ ๆ มากขึ้น เพราะทุกปัญหาไม่ได้มีทางแก้ทางเดียว
- เรียนรู้ที่จะเชื่อใจตัวเอง อย่าให้ความคิดของผู้อื่นมาเป็นตัวขวางความคิดของตัวเอง ลองถามตัวเองก่อนคนอื่น เพราะคนที่รู้จักเราดีที่สุดก็คือตัวเอง
- สนุกไปกับวิธีการทำหรือกระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ พราะสิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้ก็มาจากช่วงที่คุณต้องลงมือทำนั่นแหละ
- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเอาไว้ เพราะคนเรามักจะขับเคลื่อนชีวิตได้เป็นอย่างดีเมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้รู้ว่าควรมุ่งไปทางไหน ไม่หลงทาง
- รับฟังคำวิจารณ์จากผู้อื่นด้วย แม้จะเอาความคิดของตนเองเป็นหลัก แต่บางที่การฟังความคิดของผู้อื่นด้วยก็อาจจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆให้กับเราด้วยเช่นกัน สามารถเก็บเอาคำวิจารณ์ที่มีประโยชน์มาพัฒนาตัวเองได้
- อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น เพราะคนเรานั้นไม่เหมือนกัน ยิ่งเปรียบเทียบก็จะเป็นการกดดันตัวเองเสียเปล่า ๆ ไม่ค่อยเกิดผลดีมากนัก ทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง ถ้ามัวแต่ไปมองว่าใครดีกว่าใค จะทำให้คุณเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์มากกว่า
- ไม่ต้องรอให้ตัวเองผิดพลาดก็สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่นได้ ต้องซึกษาและดูคนรอบข้างเข้าไว้ ไม่ต้องนำมาเปรียบเทียบกับตัวเอง แต่ดูเพื่อนำข้อผิดพลาดของเขามาปรับใช้ เพราะทุกการผิดพลาดมีการเรียนรู้เสมอ
ตัวอย่าง Growth Mindset vs Fixed Mindset
เปิดร้านขายเครื่องดื่ม แต่ลูกค้าไม่เลือกซื้อของร้านเราเลย และรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ลูกค้าไปเลือกซื้อจากร้านอื่นๆ
คิดแบบ Fixed Mindset : “เศร้า เสียใจ รู้สึกไม่อยากไปเปิดร้าน พยายามหลีกเลี่ยงการเห็นภาพนั้น ๆ”
สำหรับคนที่มี Growth mindset จะมองอีกแบบ จะเริ่มตั้งคำถาม “แบบไม่ใช่เป็นเหยื่อ (Victim) แต่จะถามแบบ ผู้ล่า (Predator)”
คิดแบบเหยื่อ (Victim)
ฉันรู้สึกไม่ดี เพราะ คนโน้นทำแบบโน้น คนนี้ทำแบบนี้ และตามมาด้วยความคิด บ่น, โทษคนอื่น, นินทา, แก้ตัว และ หาเหตุผลต่างๆนาๆ เพื่อรองรับข้ออ้างของตัวเอง นี่คือวงจร “Loser“
คิดแบบผู้ล่า (Predator)
เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราต้องจะถามตัวเองว่า “ชอบ หรือ ไม่ชอบ” ถ้าไม่ชอบ.. แล้ว เราทำอะไรกับมันได้บ้าง?
Q&A
คำถาม : เฮ้ย ทำไมเค้าไม่กินของเรา เป็นที่ ยี่ห้อ รสชาติ ราคา หรือ “ตัวเรา”
คำตอบ : เสียใจจัง ที่เค้าไม่ซื้อของเรากิน เราลองหาวิธีการให้เค้ามากินของเราดีกว่า
สรุป Growth Mindset
ในปัจจุบันนี้จะเห็นว่าหลายองค์กรได้นำเอาแนวคิด Growth Mindset มาปรับใช้เพื่อพัฒนาบุคลากรในองคืกรกันมากขึ้น เพราะแต่ละหน่วยงานก็ย่อมต้องการให้พนักงานของตนเองนั้นมีแนวคิดที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ยิ่งในอนาคตที่จะมีการเติบโตทางเทคโนโลยีมากขึ้น มีการนำเอาเครื่องจักรมาใช้แทนคน แต่กำลังคนนั้นก็ยังมีความสำคัญอยู่ แต่คนที่จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะต้องมีแนวคิดในการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร ถ้าพนักงานมี Growth Mindset สภาพแวดล้อมของการทำงานก็จะเต็มไปด้วยสังคมแห่งการเรียนรู้ มีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ทุ่มเทให้กับการทำงาน พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา การทำงานในรูปแบบนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถเดินหน้าได้เร็วขึ้นผู้บริหาร หัวหน้างานก็แฮปปี้ คนทำงานก็แฮปปี้เพราะทำประโยชน์อย่างดีให้กับองค์กร ไม่ต้องกลัวว่าจะตกงานแต่อย่างใด
อ้างอิง :
https://th.hrnote.asia/
https://www.diyinspirenow.com/