การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบภาพกราฟิกถือว่าเป็นวิธีการนำเสนอข้อมูลที่เพิ่มเพิ่มการรับรู้แก่รับสารเป็นอย่างดี แต่เราต้องการให้ข้อมูลน่าตื่นเต้น สะดุดตาต่อผู้รับสารมากกว่าภาพกราฟิกทั่วไปแล้ว Motion graphic คืออะไร มีคำตอบในบทความนี้ครับ
Motion graphic คืออะไร
โดยทั่วไปแล้วในทุกๆ เว็บไซต์จะให้ความหมายของ Motion graphic ว่าภาพกราฟิกที่มีการเคลื่อนไหว (graphics with movement) เทคนิคนี้เริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมาครับ ซึ่งตัว Motion graphic จะประกอบไปด้วยข้อความ (โดยบางตำราบอกว่าเน้นข้อความเป็นหลัก) และรูปลักษณ์อื่นอย่าง เส้น สี รูปทรงแบบต่างๆ
ตัว Motion graphic เองนั้นจะเป็นคลิปสั้นไม่ใช่หนังยาวเหมือนในโรงภาพยนตร์ที่เราคุ้นตากันครับ แต่เราจะพบเจอ Motion graphic ได้ในสื่อต่างๆ เช่น ต้นคลิป ท้ายคลิป โลโก้ และแอนิเมชั่นสั้น เป็นต้น ในจุดนี้เดี๋ยวจะไปขยายความในหัวข้อถัดไปหากใครนึกภาพไม่ออกดูตัวอย่างคลิปด้านล่างนี้ครับ
Motion graphic มีความสำคัญอย่างไร
ผมอยากจะบอกคุณผู้อ่านทุกท่านว่าภาพนิ่งๆ ที่เราใช้อยู่ในเว็บไซต์ก็สามารถนำเสนอข้อมูลให้ผู้อ่านได้ดีในระดับหนึ่งนะครับ แต่รู้ไหมครับว่าในแง่มุมของจิตวิทยาการออกแบบแล้วภาพกราฟิกที่เคลื่อนไหวนั้นจูงใจ และสร้างความน่าสนใจให้กับลูกค้ามากกว่าภาพนิ่งเสียอีกครับ รู้แบบนี้แล้วลองใช้ Motion graphic กับงานประชาสัมพันธ์หรือการตลาดก็ไม่เลวเลย วันนี้เลยเอาข้อดีมากบอกสัก 3 ข้อครับ
1. อธิบายเรื่องยากให้เข้าใจได้ง่าย
หลายๆ ครั้งเรื่องที่เรากำลังนำเสนอนั้นมันเป็นเรื่องที่อธิบายได้ค่อนข้างยากด้วยสื่อแบบเดิม เช่น รูปภาพ ข้อความ เป็นต้น ครั้นจะมานั่งเขียนบทความอธิบายเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่ายๆ อาจต้องใช้เวลาเรียบเรียงเป็นระยะเวลานาน ไหนจะต้องทำภาพประกอบบทความอีกรวมแล้วอาจใช้เวลาหลายวัน แต่หากเรานำเสนอด้วย Motion graphic จะกลายเป็นภาษาสากลที่ใครก็เข้าใจได้มากกว่าครับ
2. ดึงดูดความสนใจได้ง่าย
มีงานวิจัยเรื่องความสามารถในรับรู้คนเราอยู่ที่ 8 วินาทีครับ หากจะตีความในอีกแง่มุมหนึ่งแล้วเราต้องให้คนดูสนใจหรือถูกใจในสื่อของเราและสารที่เราจะสื่อด้วยภายใน 8 วินาที ผมถามว่าบทความสามารถทำแบบนั้นได้ไหมอาจจะได้หรือไม่ได้ แต่ถ้าเป็น Motion graphic แล้วโอกาสประสบความสำเร็จและครองใจผู้ชมสูงเลยที่เดียว
3. สร้างการรับรู้ได้ไว
ภาพเคลื่อนไหวในทางจิตวิทยาแล้วสามารถสร้างความสนใจ สะดุดตา และการรับรู้ได้ไวกว่าข้อความครับ หากเราผนวกเข้ากับเรื่อง Storytelling แล้ว จะทำให้ตัวสินค้าและบริการของเราติดปีกได้เลยเพราะเรื่องราวที่โดนใจบวกกับการนำเสนอเนื้อหาด้วย Motion graphic ทำให้คนจำภาพลักษณ์ที่ดีได้แน่นอนครับ
Motion graphic มีอะไรบ้าง พร้อมตัวอย่าง
1. วิดีโอ (Explainer Video)
ถึงแม้ผมจะเขียนว่าเป็นวิดีโอแต่จริงๆ แล้วคือวิดีโอที่ใช้อธิบายเรื่องราว (Explain) ต่างๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น กล่าวคือใช้ Motion graphic และเทคนิคในการนำเสนอข้อมูลช่วยย่อยข้อมูลออกเป็นขั้นเป็นตอนหนึ่ง สอง และสาม แล้วยิ่งมีการใช้ภาพเคลื่อนไหวเข้าช่วยแล้วเลยทำให้งานชิ้นนั้นส่งสารให้ผู้ชมได้มากขั้นตามตัวอย่างด้านล่างคือ Motion graphic ที่อธิบายการทำงานของ Google BigQuery ครับ
2. ส่วนสื่อประสานกับผู้ใช้ (UI Animations)
Motion graphic ยังใช้ในการทำส่วนประสานกับผู้ใช้ เช่น ทำเป็นภาพเคลื่อนไหวเพื่อให้ผู้ใช้งานระบบสารสนเทศกับนักพัฒนาโปรแกรมนั้นเข้าใจตรงกันว่าตัวระบบสารสนเทศนั้นในส่วนของส่วนประสานกับผู้ใช้จุดนี้ อย่างปุ่ม เมนู จะเคลื่อนไหวอย่างไรเมื่อมีการปฏิสัมพันธ์ เช่น หมุน ขยับเข้าออก หรือขยับเป็นต้นครับ
3. ไอคอน (Icons)
ไอคอนเป็นส่วนประกอบของชิ้นงานเว็บไซต์ และสื่ออื่นๆ อีกมากมาย การที่ตัวไอคอนเคลื่อนไหวได้ทำให้ชิ้นงานน่าสนใจกว่าเดิม เช่น การเอาเมาส์ไปวางแล้วขยับไปมา หากใครยังนึกภาพไม่ออกลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์นี้เลยครับ animaticons.co
4. หนังสั้น (Short Films)
ในหนังสั้นก็มีการใช้เทคนิค Motion graphic โดยเขาจะนิยามว่า Motion graphic จะใช้รายละเอียดที่อยู่ในเนื้องานน้อยกว่างาน animation ด้วยความที่ตัวชิ้นงาน Motion graphic นั้นใช้เวลาในการทำน้อยกว่าจึงเหมาะแก่การเอาทำหนังสั้นครับ
นอกจากนี้แล้วยังมีตัวอย่างการใช้งาน Motion graphic อีกมากมายในหลายชิ้นงาน เอาไว้คราวหน้าผมจะหาข้อมูลแล้วเอามาใส่เพิ่มเติมให้ผู้อ่านได้ทราบว่ามีงานอะไรอีกบ้างที่ใช้เทคนิค Motion graphic ครับ
ลองทำ motion graphic ด้วยตัวเอง
ใครที่อยากพัฒนางาน motion graphic ให้ก้าวไปอีกขั้น ให้ลองลงมือทำดูครับไม่ว่าจะเป็นสืบค้นวิดีโอฟรีบนยูทูปอย่าง Motion Graphics Tutorials ของช่อง MotionGrapher หรือจะไปลงคอร์สแบบเสียเงินก็ไม่ว่ากันผมแนะนำคอร์สนี้เลย ทำ Motion Graphic สำหรับผู้เริ่มต้น เพื่อก้าวสู่มืออาชีพ ผมว่าครบถ้วนดีครับ
