Positive thinking คืออะไร?

Positive thinking คืออะไร? การปรับวิธีคิดบวก พาชีวิตเป็นบวก

การคิดแบบเชิงบวก หรือ Positive thinking นั้นช่วยให้เราก้าวผ่านช่วงเวลาร้ายๆหรือช่วงที่ความทุกข์นั้นถาโถมเข้ามาหาเราไม่ยั้งไปได้อย่างง่ายดาย ด้วยการทำความเข้าใจสิ่งเหล่านั้น ซึ่งการมี Positive thinking เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนจำเป็นต้องมีเพื่อให้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข

Positive thinking คืออะไร?

ในช่วงหลังมานี้เรามักได้ยินคำว่า Positive thinking หรือคิดแบบ Positive กันอยู่บ่อยๆ แต่จะมีใครรู้บ้างว่าจริงๆแล้วความหมายของ Positive thinking คืออะไร วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักความหมายของคำว่า Positive thinking คืออะไรที่ถูกต้องและแท้จริงกันครับ

Positive thinking คือ การคิดในเชิงบวก กับในทุกเรื่องราวที่เราเจอไม่ว่าร้ายหรือดี แน่นอนเลยว่าเมื่อสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับเรา เรามักจะมีความสุขจนลืมนึกถึงความทุกข์ที่อาจจะเข้ามาได้ทุกเมื่อโดยที่เราไม่รู้ตัว การมี Positive thinking แปลว่า การมองโลกตามความเป็นจริง เมื่อมีความสุขจงเสพสุข เมื่อมีความทุกข์ให้มองความทุกข์อย่างเข้าใจ

ความทุกข์แบบเดียวกันเมื่อเกิดขึ้นกับคนสองคน คนแรกเป็นคนที่มี Positive thinking คนที่สองเป็นคน Negative thinking คนแรกจะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับความทุกข์นั้นได้สบายๆ เขาจะคิดว่าความทุกข์นั้นอยู่ไม่นานเดี๋ยวก็ผ่านไป

ส่วนคนที่สองจะมองว่าทำไมความทุกข์นี้ต้องเกิดขึ้นกับเขา จะผ่านมันไปได้อย่างไร ทำไมยากจัง มองไปทางไหนก็ตันไปหมด เมื่อเปรียบเทียบกับคน 2 แบบช่วยให้มองเห็นความหมายของคำว่า Positive thinking คืออะไรได้ชัดเจนขึ้น

การคิดแบบ Positive thinking มีอะไรบ้าง

1. มีความสุขกับปัจจุบัน

หลายคนมักมองไปข้างหน้า วางแผนอนาคต เคร่งเครียดกับการเดินตามแผนที่วางไว้จนลืมมีความสุขกับปัจจุบัน เพราะปัจจุบันคือความสุขที่เราสร้างขึ้นมาได้และสัมผัสได้จริง ในส่วนของอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนการวางแผนให้ยืดหยุ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ

2. ใจดีกับตัวเอง

เป็นอีก 1 สิ่งที่ควรมีตามแบบฉบับ Positive thinking ตัวอย่างการคิดเชิงบวก การกล่าวโทษตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง การมี Self-compassion (ใจดีกับตัวเอง) ช่วยให้เราก้าวผ่านช่วงเวลาร้ายๆไปได้ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งจากข้างใน ใจดีกับคนอื่นแล้วอย่าลืมใจดีกับตัวเองบ้างนะ

3. ความสุข ความทุกข์ อยู่กับเราไม่นาน

โดยทั่วไปแล้วความสุข ความทุกข์แยกออกจากกันเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน หากให้เลือกอย่างใดอย่างนึง ผู้คนมักจะเลือกความสุขเสมอ เพราะมันช่างหอมหวาน อ่อนโยน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมักมาพร้อมข้อดี ข้อเสีย ความสุขใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีอย่างเดียว

มันยังมีข้อเสียที่มาพร้อมกับตัวมันเช่นกัน การที่เรามีความสุขทำให้เราประมาทเลินเล่อจนลืมป้องกันตัวเองจากความทุกข์ การอยู่กับความสุขและความทุกข์แต่พอดีช่วยให้เรามีเกราะป้องกันทางใจที่ดียิ่งขึ้น และ Positive thinking คือการอยู่กับความสุข ความทุกข์ด้วยความเข้าใจ

Positive thinking ตัวอย่างการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนพื้นฐานของ Positive thinking คือการใช้ชีวิตด้วยการมองโลกอย่างเป็นกลาง ตามความจริงที่เป็นไปช่วยลดความคาดหวังระหว่างตัวเรากับสิ่งต่างๆ ลงไปได้ เพราะการคิดลบนั้นง่ายกว่าการคิดบวกมาก ทุกคนมีความคิดลบอยู่ในตัว

แต่การคิดบวกนั้นจะต้องใช้เวลาในการฝึกการคิด เรียนรู้ จนเกิด Positive thinking แปลว่า การที่เราสามารถดำเนินชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายแบบได้อย่างมีความสุข ทุกช่วงเวลาของชีวิตเรามักจะเจอวิกฤตต่างๆ อยู่เสมอ ซึ่ง ณ เวลานั้นเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเรามีความคิดบวกหรือความคิดลบมากกว่า

ด้วยวิธีการคิดที่จะช่วยให้เราผ่านวิกฤตร้ายๆ เหล่านั้นไปได้ ซึ่งการคิดบวกช่วยให้เราผ่านเหตุการณ์เลวร้ายไปได้อย่างสบายๆ แถมเข้าใจมันมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าการมี Positive thinking คือสิ่งที่จะช่วยให้เราเข้าใจ และอยู่กับสถานการณ์ที่เจอไม่ว่าดีหรือร้ายไปได้อย่างเข้าใจและเติบโตขึ้น

สำหรับใครที่มีสงสัยว่า Positive thinking มีอะไรบ้างนั้น นอกเหนือจากสิ่งที่ได้บอกกล่าวกันในวันนี้แล้ว ยังมีสิ่งอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นการคิดในเชิงบวก ซึ่งจะช่วยให้ทุกท่านดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข