ปัจจุบันเราใช้เวลาอยู่บนโซเชียลมีเดียค่อนข้างมาก เป็นแอปพลิเคชั่นที่ดึงดูดเวลาในชีวิตไปค่อนข้างมากจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน รวมถึงการช็อปปิ้งออนไลน์สามารถทำได้ง่ายๆ บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคอย่างมากเลยทีเดียว เผลอแป๊บเดียว Social commerce ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตไปเสียแล้ว
Social commerce คืออะไร เทรนด์การขายมาแรงที่ผู้ประกอบการต้องรู้
สำหรับผู้ประกอบการแล้วช่องทางการขายสินค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอีกขั้นตอนหนึ่ง ช่องทางการขายสินค้าเปรียบประหนึ่งเป็นหน้าร้านที่วางขายสินค้าให้ผู้คนมองเห็น รู้จัก และเกิดความสนใจในตัวสินค้า ดังนั้นช่องทางการขายใหม่ๆได้เกิดขึ้นอยู่ไม่เสมอ เรียกว่าไม่หยุดนิ่งกันเลยทีเดียว และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Social commerce คืออะไร
ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านก็สามารถขายสินค้าได้ไม่ยืดยาวให้เสียเวลา Social commerce คืออะไร นั่นก็คือ ช่องทางการขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, Tiktok, Line เป็นต้น ซึ่งหลายแพลตฟอร์มได้กระโดดเข้ามาสู่ตลาด Social commerce ในไทยเพิ่มมากขึ้น
เนื่องด้วยประเทศไทยเป็นประเทศที่ช็อปปิ้งออนไลน์มากเป็นอันดับต้นๆของโลก การตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามการแข่งขันของ Social commerce ในไทย ที่ดุเดือดในขณะนี้นับว่าเป็นสิ่งที่น่าท้าทายเป็นอย่างมากในยุคที่เศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก แต่ยอดขายของร้านค้าออนไลน์กลับพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าสนใจ
Social commerce คืออะไร สร้างรายได้ให้ร้านค้าได้อย่างไรบ้าง
เทรนด์การตลาดยุคใหม่ Social commerce คืออะไร คือการเปิดหน้าร้านขายของบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีและมีบัญชีใช้งานอยู่ทุกแอปพลิเคชั่นอยู่แล้ว ซึ่งก็มีพ่อค้า แม่ค้าที่มองเห็นช่องทางการทำเงินจากแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ ที่นอกจากการเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน เข้าสังคมแล้ว ยังทำเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
รูปแบบการทำเงินจาก Social commerce มีอะไรบ้าง
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายท่านที่ทำธุรกิจค้าขาย หรือกำลังมองหาช่องทางการหาเงินเพิ่มเติมจากงานประจำคงจะอยากรู้กันแล้วล่ะว่าสามารถทำเงินจากโซเชียลมีเดียโดย Social commerce มีอะไรบ้างกันแล้ว จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
Social commerce คืออะไร สร้างรายได้จากการเล่นโซเชียลแบบไหนได้บ้าง
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีส่วนใหญ่จะเป็นแอปพลิเคชั่นที่เล่นอยู่ทุกวัน ได้แก่ Facebook, Instagram, Tiktok, Line, Pinterest เป็นต้น ข้อดีของการขายสินค้าบนช่องทาง Social Commerce คือ การมีพื้นที่สำหรับ Storytelling ของตัวสินค้าและยังสามารถสร้างตัวตนให้กับร้านค้าได้อีกด้วย ไม่จำเป็นว่าจะต้องโพสต์ขายสินค้าทุกโพสต์ไป
การบอกทริคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับตัวสินค้ายังสามารถช่วยให้ปิดการขายได้ง่ายกว่าการนำเสนอขายแบบเชิงรุก นอกจากนั้นแล้วยังช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างร้านค้ากับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
1. สร้างตัวตนได้ง่าย
การสร้างตัวตนร้านค้าให้เป็นที่รู้จักบนโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้พื้นที่ส่วนตัวของเราบอกเล่าเรื่องราวส่งผ่านสู่สาธารณะได้เลยง่ายๆ และที่สำคัญฟรี ไม่เหมือนกับการเปิดหน้าร้านที่ต้องมีเงินทุนสำหรับจ่ายค่าต่างๆมากมาย
2. เจาะกลุ่มลูกค้าหลักโดยเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสม
การจะทำธุรกิจบน Social commerce หมายถึงว่าเจ้าของธุรกิจต้องศึกษามาเป็นอย่างดีแล้วว่าสินค้าและบริการของคุณเหมาะจะวางขายบนแพลตฟอร์มไหน เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่น จุดด้อยที่ต่างกัน กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อที่ต่างกันไปด้วยเช่นกัน
3. Influencer
เทรนด์การโปรโมทร้านค้าที่มาแรง แซงการยิงโฆษณา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันการโปรโมทสินค้าที่ขายทาง Social commerce หมายถึง การใช้ Influencer ช่วยรีวิวสินค้านั้นช่วยเพิ่มกระตุ้นยอดขายได้มากกว่าการยิงโฆษณาเป็นไหนๆ แต่การจะใช้ประโยชน์การ Influencer ให้เห็นผลมากที่สุดต้องเลือกที่เหมาะสมกับสินค้าของเรา ผู้ติดตาม Influencer ท่านนั้นจะต้องมีรสนิยม การใช้สินค้าต่างๆที่ตรงกับสินค้าและบริการของร้านค้านั้นๆด้วย
เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายสรุปแล้วคำถามที่ว่า Social commerce คืออะไร หลายท่านคงคลายความสงสัยกันไปได้แล้วไม่มากก็น้อย Social commerce คืออะไร นั่นก็คือคีย์สำคัญที่เจ้าของกิจการจะต้องทำความเข้าใจและหาจุดเด่นของแต่ละแพลตฟอร์มให้เจอเพื่อตีตลาดของแต่ละแพลตฟอร์มให้สำเร็จ
